วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พฤติกรรมองค์การ ตอนที่ 21 กลุ่มที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

Rensis Linkert (1961) ได้กล่าวไว้ในหนังสือ New Pattern of Management ถึงกลุ่มที่มีประสิทธิภาพว่า สมควรที่ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
1.       สมาชิกในกลุ่มมีความจริงใจต่อกัน และมีความซื่อสัตย์ต่อผู้นำ
2.      ผู้นำและสมาชิกในกลุ่มต่างมีความเชื่อมั่นและเชื่อใจซึ่งกันและกัน
3.      สมาชิกในกลุ่มต่างมีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดศักยภาพในการทำงานสูงสุด
4.      สมาชิกมีความเข้าใจในบทบาทและวัตถุประสงค์ ตลอดจนเข้าใจถึงความเหมาะสมในการเข้าร่วมหรือถอนตัวจากกิจกรรมต่าง ๆ
5.      สมาชิกมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา
6.       สมาชิกมีความกล้าที่จะตัดสินใจภายใต้ขอบเขตความรับผิดชอบของตน
7.      ค่านิยมของสมาชิกจะสอดคล้องกับค่านิยมองค์การและค่านิยมของกลุ่ม

สำหรับกลุ่มที่มีประสิทธิผลก็สมควรจะมีบักษณะดังต่อไปนี้เช่นกัน
1.       การจัดรูปแบบงาน (Work Design) กลุ่มที่มีประสิทธิผลต้องปฏิบัติงานและมีความรับผิดชอบร่วมกันในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
2.      การจัดองค์ประกอบ (Composition) เป็นส่วนที่เกี่ยวกับวิธีจัดกลุ่มว่าควรเป็นแบบไหน ซึ่งประกอบด้วยตัวแปรสำคัญ เช่น ความสามารถและบุคลิกภาพของสมาชิกในกลุ่ม การกำหนดบทบาทของสมาชิก ขนาดของกลุ่ม ความเต็มใจที่จะร่วมกลุ่ม โดยมีรายละเอียดดังนี้
-          สมาชิกที่มีความสามารถ คือ กลุ่มจำเป็นต้องมีทักษะ 3 ประเภท ได้แก่ มีความชำนาญด้านเทคนิค มีทักษะด้านการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ มีทักษะด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
-          บุคลิกภาพ โดยบุคลิกภาพที่มีผลต่อประสิทธิผลของกลุ่ม เช่น มีความเปิดเผย ความประนีประนอม
-          มีความหลากหลายของบทบาท หมายถึงสมาชิกของกลุ่มควรมาจากการคัดเลือก เพื่อให้มีความหลากหลายและตรงกับบทบาทต่าง ๆ ซึ่ง Margerson & McCann ได้เสนอว่า กลุ่มที่ประสบความสำเร็จ จะมีสมาชิกแสดงบทบาทอย่างน้อยบทบาทใดบทบาทหนึ่งใน 9 บทบาท ดังนี้ ผู้แนะนำ (Advisor), ผู้เชื่อมโยง (Linker), ผู้สร้างสรรค์ (Creator), ผู้คุ้มครอง (Maintainer), ผู้ควบคุม (Controller), ผู้ผลิต (Production), ผู้จัดงาน (Organizer), ผู้ประเมิน (Assessor), หรือผู้ส่งเสริม (Promoter)
-          ขนาดของกลุ่ม ต้องพอเหมาะ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป สามารถสื่อสารกันได้ง่าย มีความผูกพันต่อกัน
-          สมาชิกมีความยืดหยุ่น กลุ่มต้องประกอบด้วยสมาชิกที่มีความยืดหยุ่นและพร้อมจะเรียนรู้งานทุกด้าน เมื่อได้รับการส่งเข้าฝึกอบรมเพื่อกลับมาทำงานแทนคนอื่น หรือช่วยเหลือคนอื่น
-          มีสมาชิกที่เต็มใจร่วมกลุ่ม การที่กลุ่มมีสมาชิกที่ชอบทำงานคนเดียว แต่ถูกบังคับให้เข้าร่วมกลุ่มนั้น ย่อมเกิดปัญหาต่อการทำงานของกลุ่มโดยส่วนรวม
3.      การจัดบริบท (Context) มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการที่ส่งผลให้การปฏิบัติงานของกลุ่มเกิดประสิทธิผล ได้แก่ ทรัพยากรเพียงพอ ภาวะผู้นำที่ดี มีระบบการประเมินผลและการตอบแทนที่ดี
4.        การจัดกระบวนการ (Process) ปัจจัยด้านนี้ที่มีผลต่อความมีประสิทธิผลของกลุ่ม ได้แก่ สมาชิกมีความผูกพันต่อวัตถุประสงค์ร่วมกัน การกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ความเชื่อมั่นในความสามารถของกลุ่ม การบริหารความขัดแย้ง และการลดการเอาเปรียบในการทำงานของสมาชิกบางคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น