Rensis Linkert (1961) ได้กล่าวไว้ในหนังสือ New Pattern of Management ถึงกลุ่มที่มีประสิทธิภาพว่า สมควรที่ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
1. สมาชิกในกลุ่มมีความจริงใจต่อกัน และมีความซื่อสัตย์ต่อผู้นำ
2. ผู้นำและสมาชิกในกลุ่มต่างมีความเชื่อมั่นและเชื่อใจซึ่งกันและกัน
3. สมาชิกในกลุ่มต่างมีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดศักยภาพในการทำงานสูงสุด
4. สมาชิกมีความเข้าใจในบทบาทและวัตถุประสงค์ ตลอดจนเข้าใจถึงความเหมาะสมในการเข้าร่วมหรือถอนตัวจากกิจกรรมต่าง ๆ
5. สมาชิกมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา
6. สมาชิกมีความกล้าที่จะตัดสินใจภายใต้ขอบเขตความรับผิดชอบของตน
7. ค่านิยมของสมาชิกจะสอดคล้องกับค่านิยมองค์การและค่านิยมของกลุ่ม
สำหรับกลุ่มที่มีประสิทธิผลก็สมควรจะมีบักษณะดังต่อไปนี้เช่นกัน
1. การจัดรูปแบบงาน (Work Design) กลุ่มที่มีประสิทธิผลต้องปฏิบัติงานและมีความรับผิดชอบร่วมกันในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
2. การจัดองค์ประกอบ (Composition) เป็นส่วนที่เกี่ยวกับวิธีจัดกลุ่มว่าควรเป็นแบบไหน ซึ่งประกอบด้วยตัวแปรสำคัญ เช่น ความสามารถและบุคลิกภาพของสมาชิกในกลุ่ม การกำหนดบทบาทของสมาชิก ขนาดของกลุ่ม ความเต็มใจที่จะร่วมกลุ่ม โดยมีรายละเอียดดังนี้
- สมาชิกที่มีความสามารถ คือ กลุ่มจำเป็นต้องมีทักษะ 3 ประเภท ได้แก่ มีความชำนาญด้านเทคนิค มีทักษะด้านการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ มีทักษะด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
- บุคลิกภาพ โดยบุคลิกภาพที่มีผลต่อประสิทธิผลของกลุ่ม เช่น มีความเปิดเผย ความประนีประนอม
- มีความหลากหลายของบทบาท หมายถึงสมาชิกของกลุ่มควรมาจากการคัดเลือก เพื่อให้มีความหลากหลายและตรงกับบทบาทต่าง ๆ ซึ่ง Margerson & McCann ได้เสนอว่า กลุ่มที่ประสบความสำเร็จ จะมีสมาชิกแสดงบทบาทอย่างน้อยบทบาทใดบทบาทหนึ่งใน 9 บทบาท ดังนี้ ผู้แนะนำ (Advisor), ผู้เชื่อมโยง (Linker), ผู้สร้างสรรค์ (Creator), ผู้คุ้มครอง (Maintainer), ผู้ควบคุม (Controller), ผู้ผลิต (Production), ผู้จัดงาน (Organizer), ผู้ประเมิน (Assessor), หรือผู้ส่งเสริม (Promoter)
- ขนาดของกลุ่ม ต้องพอเหมาะ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป สามารถสื่อสารกันได้ง่าย มีความผูกพันต่อกัน
- สมาชิกมีความยืดหยุ่น กลุ่มต้องประกอบด้วยสมาชิกที่มีความยืดหยุ่นและพร้อมจะเรียนรู้งานทุกด้าน เมื่อได้รับการส่งเข้าฝึกอบรมเพื่อกลับมาทำงานแทนคนอื่น หรือช่วยเหลือคนอื่น
- มีสมาชิกที่เต็มใจร่วมกลุ่ม การที่กลุ่มมีสมาชิกที่ชอบทำงานคนเดียว แต่ถูกบังคับให้เข้าร่วมกลุ่มนั้น ย่อมเกิดปัญหาต่อการทำงานของกลุ่มโดยส่วนรวม
3. การจัดบริบท (Context) มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการที่ส่งผลให้การปฏิบัติงานของกลุ่มเกิดประสิทธิผล ได้แก่ ทรัพยากรเพียงพอ ภาวะผู้นำที่ดี มีระบบการประเมินผลและการตอบแทนที่ดี
4. การจัดกระบวนการ (Process) ปัจจัยด้านนี้ที่มีผลต่อความมีประสิทธิผลของกลุ่ม ได้แก่ สมาชิกมีความผูกพันต่อวัตถุประสงค์ร่วมกัน การกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ความเชื่อมั่นในความสามารถของกลุ่ม การบริหารความขัดแย้ง และการลดการเอาเปรียบในการทำงานของสมาชิกบางคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น